ผลิตภัณฑ์เซซามิกซ์แซด (SESAMIX-Z)
บริษัท เอมมิลี่ (ไทยแลนด์) จำกัด แบรนด์ เซเนส เซซามิกซ์ เป็นผู้ครอบครอง สูตรสิทธิบัตรงานวิจัยผลิตภัณฑ์เซซามิกซ์แซด เพียงผู้เดียว และ บริษัท ผลิตภัณฑ์จด อย. เครื่องหมายฮาลาน วางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ.2560 อย่างเป็นทางการ ด้วยงานวิจัย นวัตกรรมของสารสกัด ที่สามารถ ตอบโจทย์ ช่วยเหลือ กลุ่มเคส ผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างดี
ผลิตภัณฑ์เซซามิกซ์แซดคือ สารสกัดที่มีการผสมผสาน ระหว่าง เซซามิน และ เฮสเพอริดิน เป็นการวิจัยใหม่ล่าสุด พัฒนาขึ้นจากงานวิจัย ของ ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ที่ต้องการวิจัย สำหรับเคสผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อยับยั้งเชื้อมะเร็ง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นผลมากขึ้น และความพิเศษคือ เป็นงานวิจัยที่มีการทดสอบด้วยสิ่งมีชีวิต และผลการลดลงของมะเร็งลดลงชัดเจน
จุดเด่นเซซามิกซ์แซด
- ส่วนผสมหลักคือ เซซามิน + เฮสเพอริดิน ยับยั้งมะเร็งได้ดีกว่า จากงานวิจัย 100%
- มีสิทธิบัตรรับรองในปี 2021 ในการเสริมฤทธิ์ในการรักษาควบคู่กับคีโม ลดการใช้ยาคีโม และเซลล์มะเร็งตายมากขึ้น
- มาตราฐานได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการในการช่วยลดขนาดของกลุ่มเซลล์มะเร็งได้มากที่สุด
- ผ่านการทดลอง ในห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลองว่า "สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้"
- ออกฤทธิ์ในการรักษาได้ดีกว่าสูตรเดิมที่มีแค่เซซามิน
- ยังยับยั้งกระบวนการอักเสบของร่างกายได้ดี
- ลด PD-L1 ของมะเร็ง เสริมการทำงานของ T-cell ฆ่ามะเร็ง
- ลดอาการแพ้คีโม ยับยั้งการอักเสบ ต้านไวรัส
- ดูแล ยับยั้งมะเร็ง เสริมการรักษาด้วยคีโม
- ป้องกันการเสื่อมของเซลล์
ผลการลดรอยโรคกลุ่มเซลล์มะเร็ง
บรรทัดที่ "ใช้สูตร เซซามิน อย่างเดียว" การลดรอยโรคลดลง 15.10 หน่วย และ High dost 15.82 ความต่างไม่เยอะ ระหว่าง Low กับ High Dost
บรรทัด ที่แสดงผลถึงการใช้ สูตร "เซซามิกซ์ แซด"
เป็นสูตที่มีส่วนผสม เซซามินกับเฮสเพอริดิน จะพบการลดรอยโรคได้เยอะ > กว่ามาก คือ
ระดับ Low dost (รับประทานแบบน้อย) เชื้อมะเร็งลดลงเหลือ 8.86 หน่วย
ระดับ High Dost (รับประทานแบบเยอะ)
เชื้อมะเร็งลดลงเหลือเพียง 6.6 หน่วย
บทความ
มะเร็งลำไส้มีกี่ระยะ
และมีอะไรที่ควรรู้บ้าง?
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยมะเร็งชนิดนี้สามารถแบ่งออกเป็นระยะต่าง ๆ ได้ดังนี้
-
ระยะที่ 0: เป็นระยะเริ่มต้นที่เซลล์มะเร็งยังอยู่แค่ในชั้นผิวของลำไส้ใหญ่
-
ระยะที่ 1: เซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามเข้าไปในผนังลำไส้ แต่ยังไม่ทะลุออกไปนอกผนัง
-
ระยะที่ 2: มะเร็งทะลุผ่านผนังลำไส้ แต่ยังไม่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง
-
ระยะที่ 3: มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง
-
ระยะที่ 4: มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย
อาการของมะเร็งลำไส้
ในระยะแรก ๆ มะเร็งลำไส้อาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่เมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น อาจมีอาการต่างๆ เช่น
-
การเปลี่ยนแปลงนิสัยการขับถ่าย เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือมีเลือดปนอุจจาระ
-
ปวดท้อง ท้องอืด หรือรู้สึกว่าถ่ายอุจจาระไม่สุด
-
อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
-
โลหิตจาง
การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้
การตรวจคัดกรองมีความสำคัญอย่างมากในการตรวจพบมะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น ซึ่งมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูง การตรวจที่แนะนำคือ
-
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy): เป็นการตรวจที่แม่นยำที่สุดในการตรวจหามะเร็งลำไส้
-
การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FOBT): เป็นการตรวจเบื้องต้นที่ง่ายและสะดวก
การรักษามะเร็งลำไส้
การรักษามะเร็งลำไส้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย โดยทั่วไปการรักษาอาจรวมถึง
-
การผ่าตัด: เป็นการรักษาหลักสำหรับมะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น
-
เคมีบำบัด: ใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
-
รังสีรักษา: ใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
สิ่งที่คุณควรทำ
-
ปรึกษาแพทย์: หากคุณมีอาการที่น่าสงสัย หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
-
ตรวจคัดกรอง: หากคุณมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ตามคำแนะนำของแพทย์
หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ หรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองและการรักษา สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้
คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับสูงที่สุดในโลกโดยแต่ละวันมีผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยถึง 30 รายทั่วประเทศทั้งยังมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไรก็ตาม แม้ว่าตับ
สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ระดับหนึ่งแต่การต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงอยู่ทุกวันก็อาจสร้างปัญหาให้แก่ตับได้
“มะเร็งที่จุดเริ่มต้นอยู่ที่ตัวตับเองซึ่งมักจะเป็นผลพวงของภาวะตับอักเสบเรื้อรังและตับแข็ง""หากมะเร็งตับที่มีจุดเริ่มต้นมาจากอวัยวะอื่น ๆ(เช่น ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ตับอ่อน เป็นต้น)แล้วจึงแพร่กระจายต่อไปยังตับหรืออาจเรียกว่าเป็นมะเร็งตับแพร่กระจาย”การใส่ใจสุขภาพโดยการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคต่อตับรวมทั้งการตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำตามสมควร จึงเป็นจำเป็นมากในการป้องกันโรคต่างๆ ของตับ90% ของมะเร็งตับเกิจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี และซีจึงมีโอกาสเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับสูงหากมีมะเร็งตับเกิดขึ้นจะโตขึ้นเป็น 2 เท่า
ภายในเวลา 3-6 เดือน